ถ้าพูดถึงการลงทุน หากเป็นการลงทุนทำธุรกิจอาจฟังดูซับซ้อนน้อยกว่าการลงทุนในตลาดหุ้น หรือสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ ที่ดูไกลตัว ทั้งนี้การทำธุรกิจก็มีความเสี่ยงสูงและมีตัวแปรหลายประการที่ส่งผลต่อธุรกิจได้ การลงทุนในสินทรัพย์ที่ดีและสร้างความมั่นคงได้ในระยะยาว จึงเป็นทางเลือกที่ควรศึกษาเอาไว้เพิ่มเติม สินทรัพย์เพื่อการลงทุนมีอะไรบ้าง และมีความเสี่ยงกี่ประเภท บทความนี้จะพาไปหาคำตอบเพื่อเลือกสินทรัพย์ที่เหมาะสมกับวิธีลงทุนกัน
สินทรัพย์เพื่อการลงทุนมีอะไรบ้าง ที่อยู่ในระดับความเสี่ยงต่ำถึงปานกลาง
สินทรัพย์ที่มีระดับความเสี่ยงต่ำไปจนถึงระดับความเสี่ยงปานกลาง เป็นสินทรัพย์ประเภทที่มีความปลอดภัยสูง ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อความเปลี่ยนแปลงของสินทรัพย์เหล่านี้มีน้อย หรือแม้แต่มีคู่แข่งทางการตลาดน้อย จึงมีความเสี่ยงน้อยตามไปด้วยนั่นเอง แม้แต่ผู้ที่มีเงินเย็นจำนวนมากและรับความเสี่ยงสูงได้อยู่แล้ว ก็นิยมพักเงินลงทุนไว้กับสินทรัพย์เหล่านี้เพื่อหาจังหวะที่ดีกว่าในการลงทุนกับสินทรัพย์ประเภทความเสี่ยงสูงต่อไป
- เงินฝาก
ถ้าถามถึงสินทรัพย์เพื่อการลงทุนมีอะไรบ้าง บางครั้งนักลงทุนอาจจะลืมเรื่องเงินสดหรือเงินฝากไป ทั้งที่เป็นสินทรัพย์อีกชนิดหนึ่งเหมือนกัน เพียงแต่สร้างผลตอบแทนได้น้อยที่สุดเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ เพราะขึ้นอยู่กับระยะเวลา ปริมาณเงินฝาก และอัตราดอกเบี้ยเท่านั้น ที่จะกำหนดอัตราผลตอบแทนได้ อย่างไรก็ตาม การฝากเงินจำนวนมากเอาไว้เพื่อรับดอกเบี้ยยังดีกว่าการถือเงินสดเอาไว้เฉย ๆ
- ตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงต่ำถึงปานกลาง
ตราสารหนี้หรือพันธบัตรที่ออกโดยรัฐบาล หรือองค์กรขนาดใหญ่ของรัฐที่น่าเชื่อถือ จะมีระดับความเสี่ยงที่ต่ำอยู่แล้ว เนื่องจากเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของเศรษฐกิจในประเทศโดยตรง โอกาสที่จะขาดทุนจึงมีน้อย ต้องอาศัยการบริหารจัดการทรัพย์สินขององค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ แม้ผลตอบแทนจะน้อยกว่าการลงทุนในหุ้นเอกชน แต่ตราสารหนี้ก็เป็นแหล่งลงทุนความเสี่ยงต่ำที่เหมาะกับการพักเงินได้อย่างดี
สินทรัพย์เพื่อการลงทุนมีอะไรบ้างที่มีความเสี่ยงสูง แต่สร้างผลตอบแทนได้มาก
สำหรับสินทรัพย์เพื่อการลงทุนมีอะไรบ้างที่มีความเสี่ยงสูง มักเป็นสินทรัพย์ที่เหมาะกับการลงทุนทั้งในระยะสั้นและในระยะยาว โดยการลงทุนในระยะสั้นนั้นต้องติดตามข่าวสารเศรษฐกิจตลอดเวลา เพื่อหาโอกาสทำกำไรในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของสินทรัพย์นั้น ๆ ส่วนการลงทุนระยะยาวคือการเน้นเก็บสะสมมูลค่าไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนในรูปแบบดอกเบี้ยทบต้น การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงจึงสร้างผลตอบแทนได้มากตามไปด้วยหากสามารถเลือกสินทรัพย์ถูกจังหวะได้
- น้ำมันดิบ
น้ำมันดิบเป็นสินทรัพย์ที่มีปัจจัยเป็นผู้เล่นหลายฝ่ายด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นประเทศผู้ผลิต ประเทศผู้นำเข้ารายใหญ่ ประเทศที่มีความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างกัน ซึ่งหากเกิดความขัดแย้งระหว่างกันก็จะส่งผลต่อราคาน้ำมันทั่วโลก เศรษฐกิจที่ต้องอาศัยน้ำมันดิบทั้งทางตรงและทางอ้อมก็จะได้รับผลกระทบหลายด้าน แต่ด้วยความจำเป็นของน้ำมันดิบนี่เอง ที่ทำให้เป็นสินทรัพย์ความเสี่ยงสูงที่สร้างผลตอบแทนได้มาก
- สินทรัพย์เกี่ยวกับเทคโนโลยีต่าง ๆ
สินทรัพย์เพื่อการลงทุนมีอะไรบ้างที่เข้ากับเทรนด์ยุคปัจจุบันมากที่สุด ก็ต้องเป็นหุ้นหรือกองทุนรวมเกี่ยวกับบริษัทพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ เพราะธุรกิจเหล่านี้กำลังเติบโตเรื่อย ๆ และเป็นที่ต้องการอย่างมากในโลกปัจจุบันยาวไปจนถึงอนาคต แต่อย่างไรก็ตาม หุ้นหรือกองทุนรวมเกี่ยวกับบริษัทเทคโนโลยียังคงมีความเสี่ยงในระดับสูงอยู่ดี เพราะเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ไม่แน่นอนยังส่งผลกระทบต่อกลุ่มธุรกิจเหล่านี้ได้ เช่น วิกฤตเศรษฐกิจ นโยบายการขึ้นอัตราดอกเบี้ย หรือสภาวะภัยธรรมชาติต่าง ๆ เพราะสินค้าเทคโนโลยียังไม่จำเป็นเท่ากับสินค้าที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยสี่ในการดำรงชีวิต จึงมีโอกาสขาดทุนสูงเช่นกัน
- อสังหาริมทรัพย์
ดูเผิน ๆ แล้วอสังหาริมทรัพย์อาจเป็นสินทรัพย์ที่ค่อนข้างมั่นคง สามารถลงทุนในกองทุนรวมประเภทโครงสร้างพื้นฐานได้ แต่หากมองในเชิงรายละเอียดแล้วก็มีปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อผลกำไรของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เช่นกัน แต่ปัจจัยเหล่านั้นมักเป็นปัจจัยระยะยาว เช่น จำนวนคนในช่วงอายุของคนมีกำลังซื้อ สภาพสังคมที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ สภาพแวดล้อมจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลก เป็นต้น การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์จึงมีความเสี่ยงในระยะยาว พร้อม ๆ กับการได้รับผลตอบแทนมากในระยะยาวเช่นกัน คราวนี้เมื่อรู้แล้วว่าสินทรัพย์เพื่อการลงทุนมีอะไรบ้าง และแต่ละอย่างมีความเสี่ยงแตกต่างกันอย่างไร ต่อไปก็อย่าลืมศึกษาปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และติดตามข่าวสารเศรษฐกิจต่าง ๆ เพื่อให้รู้ทันจังหวะการลงทุน ทั้งนี้ควรเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่เหมาะกับจริตการลงทุนของตัวเอง นั่นก็คือลงทุนในสินทรัพย์ที่อยู่ในประเภทธุรกิจที่เรารู้จัก เข้าใจกลไกของธุรกิจดี เพราะถึงแม้จะรับความเสี่ยงได้สูง แต่ถ้าไม่รู้จักประเภทธุรกิจหรือสินทรัพย์ที่ลงทุนเลย ก็อาจทำให้เราขาดทุนโดยไม่ทันตั้งตัวได้